ปัญหาโลกแตกอย่างหนึ่งของการเลือกแบบ เลือกสไตล์ เลือกวัสดุ ในการตกแต่งห้องคือไม่รู้จะตกแต่งแบบไหนดี เช่นเดียวกันการเลือกสี ก็เป็นปัญหาที่คิดไม่ตกเหมือนกัน
ฉนั้น วันนี้มีทางเลือกง่ายๆ ของโทนสี ที่คนส่วนใหญ่มักจะเลือกโทนสีในการตกแต่งไปใน 2 ทางคือ โทนน้ำตาล และโทนเทา เพราะทั้งสีน้ำตาล และสีเทา เป็นสีเป็นกลางในการออกแบบตกแต่งภายใน เป็นสีพื้นเข้าได้กับทุกสไตล์การตกแต่งและไร้กาลเวลาสำหรับสไตล์การออกแบบที่หลากหลาย โดยหลักการง่ายๆ ดังนี้
- ความซับซ้อน: สีโทนน้ำตาลและเทา ให้ความรู้สึกสงบ แต่ในขณะเดียวกันยังสามารถสร้างความรู้สึกซับซ้อน ดูสง่างาม ใช้ร่วมกับวัสดุต่างๆ สร้างบรรยากาศได้หลากหลาย ทั้งความหรูหรา ทันสมัย และดูกลมกลืนกับธรรมชาติ
- ความยืดหยุ่น: สีโทนน้ำตาลและเทา สามารถจับคู่กับสี ลวดลาย และพื้นผิวอื่นๆ ได้ง่าย เสมือนผืนผ้าใบที่ว่างเปล่า สามารถแต่งแต็ม เน้นจุดสำคัญ หรือ ทำให้กลมกลืนได้ง่าย สามารถใช้กับโทนสีอบอุ่นหรือโทนเย็นได้ และเข้าได้กับฤดูกาล แม้กระทั้งเทรนด์การตกแต่งที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัยก็ตาม
- ไร้กาลเวลา: สีโทนน้ำตาลและเทา มีความคลาสสิก และไร้กาลเวลา เข้ากับการออกแบบที่เปลี่ยนแปลงได้ ด้วยการใช้โทนสีที่เป็นกลาง คุณสามารถสร้างการออกแบบที่ไม่เคยตกยุคและให้ความรู้สึกเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
- ความกลมกลืน: สีโทนน้ำตาลและเทา เมื่อใช้ร่วมกับสีกลางอื่นๆ หรือในเฉดสีต่างๆ สีน้ำตาลและสีเทาสามารถสร้างการออกแบบที่กลมกลืนและเหนียวแน่น สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งในการสร้างบรรยากาศที่เงียบสงบและสมดุลในพื้นที่
- พื้นผิว: สีโทนน้ำตาลและเทา เป็นสีที่อยู่ในเนื้อของวัสดุ โดยทั่วไปอยู่แล้ว เช่น ไม้ และโลหะ สามารถเน้นพื้นผิวของวัสดุให้เป็นจุดเด่น หรือเป็นองค์ประกอบโดยรวมได้ สร้างความเป็นมิติ และความน่าสนใจในการออกแบบได้อย่างง่ายๆ
ความหมายในเชิงความรู้สึก และสไตล์การตกแต่ง
สีโทนน้ำตาล
- ความรู้สึก: Warmth, Comfort, Stability, Earthiness, Naturalness
- การออกแบบตกแต่ง: Rustic, Vintage, Bohemian, Organic, Traditional
- สไตล์: Casual, Relaxed, Cozy, Down-To-Earth, Timeless
- วัสดุ: ไม้จริง และลายไม้ พื้น และวัสดุปิดผิวลายไม้, สิ่งทอ-หนัง, อิฐ, กระเบื้อง แกรนิตโต และกระเบื้องยางลายไม้, สีทาผนัง, โลหะ เช่น ทองเหลือง ทองแดง รวมถึงการทำสี เช่น โรสโกลด์, กระจกเงารมทอง, หินปูพื้นและตกแต่ง เช่น แกรนิต หินอ่อน และของตกแต่งอื่นๆ
สีโทนเทา
- ความรู้สึก: Neutrality, Calmness, Sophistication, Balance, Professionalism
- การออกแบบตกแต่ง: Modern, Minimalistic, Industrial, Elegant, Chic
- สไตล์: Formal, Sophisticated, Refined, Sleek, Timeless
- วัสดุ: ไม้ทำสี การเผาผิวหน้าไม้ และวัสดุปิดผิวลายไม้, สิ่งทอ-หนัง, สีทาผนัง, กระเบื้อง แกรนิตโต และกระเบื้องยาง, โลหะ เช่น เหล็ก อลูมิเนียม สแตนเลส และการทำสี, กระจกเงารมดำ, ปูนเปลือย-ขัดมัน, หินปูพื้นและตกแต่ง เช่น แกรนิต หินอ่อน และของตกแต่งอื่นๆ
กฏ 80%/20%
กฎ 80/20 หรือที่รู้จักกันในชื่อ “กฎพาเรโต” (Pareto principle) หรือสัดส่วน 80/20 (Law of the vital few) หมายถึง ส่วนเล็กๆน้อยๆ ที่สำคัญและส่งผลต่อส่วนอื่นๆเป็นจำนวนมาก ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้ร่วมกันของทั้งสองโทน โดยให้สัดส่วนของสีที่มากน้อยต่างกัน
จากรูป การตกแต่งเป็นสีน้ำตาล, และมีการใช้สีเทา ในสัดส่วน 50/50
จากรูป การตกแต่งโดยรวมเป็นโทนสีน้ำตาล, เบจ สีน้ำตาลจากวัสดุไม้พื้นน และตกแต่งผนัง และมีการใช้สีเทาเข้ม ที่เป็นผ้าม่าน สีดำของชั้นวางทีวี มาตัดเพื่อให้เกิดความน่าสนใจยิ่งขึ้น
จากรูป โดยรวมเป็นโทนสีน้ำตาล ครีม เบจและมีการใช้สีเทาของวัสดุหินอ่อน มาตัดเพื่อให้เกิดความน่าสนใจยิ่งขึ้น
จากรูป โดยรวมการตกแต่งเป็นสีโทนเทา และมีการใช้สีน้ำตาล ด้วยตัวเนื้อวัสดุอย่างโต๊ะไม้มาตัดเพื่อให้เกิดความน่าสนใจยิ่งขึ้น
จากรูป โดยรวมการตกแต่งเป็นสีโทนเทา, ขาว และมีการใช้สีน้ำตาล ด้วยตัวเนื้อวัสดุอย่างพื้นไม้มาตัดเพื่อให้เกิดความน่าสนใจยิ่งขึ้น
การเพิ่มสีธรรมชาติอย่างสีเขียวของต้นไม้, ใบไม้ เป็นสีที่ 3 ช่วยพื่อให้เกิดความน่าสนใจ และยังสร้างความมีชีวิจชีวา ให้กับการตกแต่งอีกด้วย
เช่นเดียวกันเราสามารถเพิ่มสีที่ตัดกันเข้าไปใช่สัดส่วน 80/20 ซึ่งจะสามารถสร้างความน่าสนใจได้อย่างมาก
จากรูป เราสามารถเพิ่มสีที่ 3 ลงไป เพื่อสร้างความนี้สนใจเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในสัดส่วน 70/20/10
หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะได้ แนวไอเดียนำไปใช้ในการตกแต่งห้อง กับโทนสีน้ำตาล และสีเทาแนะนำเป็นตัวอย่างนะครับ ^ ^
บทความโดย: ทายาท เตชะสุวรรณ์ นักออกแบบ