fbpx

ดรอปฝ้าซ่อนราง และกล่องบังราง ต้องเว้นระยะเท่าไหร่

หลายคนที่เคยแต่งบ้าน แล้วสังเกตุการติดตั้งม่าน แล้วทำไมรู้สึกว่า บ้านตัวอย่าง หรือบ้านเพื่อนที่เราไปเที่ยวหา ทำไมผ้าม่านนั้นดูสวยลงตัว เป็นส่วนหนึ่งของบ้านได้ดี สิ่งที่สำคัญคือ การดรอปฝ้า  (Drop Ceiling) ซ่อนรางม่านและหัวม่านยังไงละ แต่สำหรับบางบ้านที่ไม่ได้วางแผนกับการดรอปฝ้าไว้ตั้งแต่แรก หรือไม่อยากรื้อให้เป็นเรื่องใหญ่ ก็มีวิธีการแก้ไขโดยการ เสริมกล่องบังราง (Curtain Cornice, Pelmet) แล้วทั้งสองอย่างนี้ เค้าเว้นระยะกันเท่าไหร่ ไปดูกันเลย

ตัวอย่างห้องที่มีการออกแบบในการดรอปฝ้า

สำหรับลูกค้าบ้าน ถ้าต้องการดรอปฝ้า ควรปรึกษาเรื่องแบบบ้าน ตั้งแต่แรกก่อนสร้างบ้าน เพราะต้องกำหนดระยะความสูงจากพื้นถึงฝ้าตั้งแต่แรก เพราะถ้าไม่ได้กำหนดไว้ ในการปรับปรุงตกแต่งที่หลังอาจส่งผลให้ระดับฝ้าจะต่ำกว่าปกติ ทำให้รู้สึกอึดอัด งานส่วนนี้ ต้องปรึกษา และทำด้วยผู้รับเหมาตกแต่งบ้านที่เชี่ยวชาญ ร้านม่านโดยทั่วไปมักทำในส่วนนี้ไม่ได้ นะครับ


ตัวอย่างการแก้ปัญหาด้วยการเสริมกล่องม่านบังราง

สำหรับงานเสริมกล่องบังรางนั้น เป็นงานเสริม เพิ่มความสวยงานโดยไม่ได้ไปยุ่งกับระดับของตัวฝ้าเพดานเดิม สามารถบอกทางร้านม่านเลยตั้งแต่แรกว่าต้องการทำสิ่งนี้ด้วย เพื่อง่ายต่อการคำนวนและเข้าวัดพื้นที่ได้อย่างถูกต้อง และงานส่วนนี้ร้านม่านทั่วไปสามารถทำได้


โดยทั่วไปแล้วการตัดเย็บผ้าม่านสำหรับรางสไลด์ มักตัดเย็บกันในสองรูปแบบ 1. แบบคลาสสิกคือ ม่านสามจีบ 2. แบบโมเดิร์น คือแบบลอน S ซึ่งรูปแบบการตัดเย็บทั้งสองแบบมีผลกับการเว้นระยะห่างอย่างยิ่ง เพราะม่านสามจีบมีการเก็บช่วงลอนของม่านเป็นในรูปแบบจีบแล้ว ซึ่งจะทำให้กินระยะน้อยว่าม่านลอน S ที่มีช่วงลอนโค้งกินไปทางหน้าและหลังที่เท่าๆ กัน

แล้วการเว้นระยะห่างจากผนังถึงขอบของฝ้าเป็นระยะเท่าไหร่ หรือการเสริมกล่องม่านต้องเว้นเท่าไหร่ ก็ไปดูกันเลย

หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ช่วยให้หลายท่านวางแผนในการออกแบบตกแต่งภายใน ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องผ้าม่านได้ไม่มากก็น้อยนะครับ